วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2561

คู่มือการใช้กล้อง Canon EOS 70D


Review : Canon EOS 70D สุดยอดกล้อง DSLR ที่มาพร้อมระบบโฟกัสอันยอดเยี่ยม




Canon EOS 70D



·         เซ็นเซอร์ APS-C Dual Pixel CMOS AF ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซล

·         ชิพประมวลผล DIGIC 5+

·         ISO 100-12800 ขยายได้ถึง 25600

·         ถ่ายภาพต่อเนื่อง 7 ภาพต่อวินาที (JPEG 65 ภาพ/RAW 16 ภาพ)

·         เซ็นเซอร์ Autofocus มีจุด AF 19 จุด เป็น Cross-type ทั้งหมด

·         เซ็นเซอร์วัดแสง iFCL 63 โซน

·         ช่องมองภาพครอบคลุมการมองเห็น 98%

·         จอแสดงผลปรับหมุนได้(หมุนได้แบบเดียวกับ 60D)

·         จอแสดงผล Touchscreen ขนาด 3.0" ความละเอียด 1,040,000 พิกเซล

·         มี Wi-Fi ในตัว

·         แฟลชหัวกล้องสามารถสั่งงานแฟลชไร้สายได้

·         ถ่าย Video Full HD 1080p 30fps

·         มีโหมดถ่ายภาพ HDR และ Multiple Exposure

·         มีช่องใส่การ์ด SD/SDHC/SDXC 1 ช่อง

·         มี Weather Seal กันน้ำกันฝุ่น

·         ใช้แบตเตอรี่ LP-E6

·         ใช้กริ๊ปรุ่น BG-E14

·         น้ำหนัก 755 กรัม

ประกันศูนย์ Body   29,000
ประกันศูนย์ 18-55 IS STM 37,500 

ประกันศูนย์ 18-135 IS STM 45,300

                                                                ครั้งแรกของโลกกับ  เทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF

เทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ เป็นครั้งแรก Dual Pixel CMOS AF คือการใช้เซ็นเซอร์รับภาพ เป็นตัวโฟกัสภาพ จะว่าไปจริงๆ การนำเอาเซ็นเซอร์ ที่เดิมไว้ใช้ถ่ายภาพ มาทำหน้าที่ในการโฟกัสภาพนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว มีมาได้สักพักแล้ว ในชื่อที่เรียกว่า Hybrid AF ซึ่ง Hybrid AF ใช้แค่พื้นที่ส่วนเล็กๆในภาพ ใช้งานพิกเซลในการทำงาน จับสัญญาน Phase detection เพื่อช่วยโฟกัสอย่างรวดเร็ว (ในเบื้องต้น) แล้วขั้นปลายจึงใช้ Contrast detection มาปรับในขั้นตอนสุดท้าย ให้โฟกัส "เข้าเป้า" การทำงานร่วมกันของสองระบบนี้ ที่เรียกกันในตอนแรกว่าเป็น Hybrid AF (ออโต้โฟกัสแบบ ผสมผสาน ระหว่าง Phase detection กับ Contrast detection ใช้สองอย่างช่วยกันโฟกัส) นั่นคือ สิ่งที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน ในกล้องหลายรุ่น หลายๆ ยี่ห้อทำกัน 

แต่สิ่งที่ Canon ทำให้กับกล้อง Canon EOS 70D นั้น ต้องเรียกได้ว่าเป็น การปฏิวัติรูปแบบการทำงาน ของการโฟกัสภาพด้วยเซ็นเซอร์รับภาพ ก็คือ ทาง Canon ไม่ได้ใช้งานในลักษณะผสมผสาน หรือ Hybrid อีกต่อไป แต่เป็นการทำงานในแบบ Phase detection ล้วนๆ ที่ Canon เรียกว่า Dual Pixel CMOS AF ดังนั้น Dual Pixel CMOS AF จึง ไม่ใช่ระบบโฟกัสแบบ Hybrid AF แต่เป็นสิ่งใหม่ เป็น Phase detection ล้วนๆ ที่ต้องเรียกว่า ครั้งแรกในโลก ตามคำกล่าวอ้างของ Canon เอง ก็คงต้องเชื่อเขาหน่อย



โฟกัสอัจฉริยะ Dual Pixel CMOS AF ทำงานอย่างไร

หลายคนจึง สงสัยว่า แล้ว Canon ทำได้อย่างไร ในการให้แต่ละพิกเซล ทำงานได้ทั้ง การโฟกัสภาพ และการถ่ายภาพ โดยสรุปก็คือ ทาง Canon แบ่งพิกเซล ในระดับเล็กๆ ที่ตัวพิกเซลเอง ออกเป็น 2 พิกเซลย่อยๆ เป็น A กับ B ในขณะที่ยังไม่ได้มีการบันทึกภาพ กล้องก็จะใช้พิกเซลแบบแบ่งครึ่้งนี้ ในการโฟกัสภาพแทน โดยกลุ่ม A จับสัญญานโฟกัส Phase A อีกกลุ่ม คือกลุ่ม B ก็จับสัญญานโฟกัส Phase B ส่งข้อมูลทั้ง 2 phases ไปให้ระบบสมองกล คำนวณหาจุดโฟกัส ที่ทั้ง Phase A และ Phase B มารวมกันได้พอดิบพอดี (เข้าโฟกัส) จึงเป็นการทำงานในแบบ Phase detection ที่สมบูรณ์แบบ เหมือนระบบ Phase detection ของกล้อง DSLR ที่ไม่ได้ใช้ Live view ยังไงยังงั้น 

จะเห็นได้ว่า ตลอดการโฟกัสนั้น ไม่ได้มีส่วนของ Contrast detection เข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด จึงไม่ใช่ระบบ Hybrid AF เหมือนแต่ก่อน ทาง Canon จึงกล้าที่จะบอกกับชาวไทย และชาวโลกว่า นี่คือ "ครั้งแรกของโลก" และก็คงจะเป็น "รักแรก" สำหรับ คอถ่ายวิดีโอด้วยกล้อง DSLR หรือ คอถ่าย Live View กันแน่แท้เหมือนกัน เพราะนี่คือ สิ่งที่ช่วยการทำงาน ของบุคคลที่ทำงานวิดีโอ ด้วยกล้อง DSLR รอคอยมานานแล้ว (จะได้เลิกหมุนมือกันเสียที) เพราะมันจะช่วยการทำงาน ถ่ายวิดีโอได้อย่างมากมายมหาศาล ตากล้องวิดีโอ DSLR ก็ไม่ต้องหมุนเลี้ยงโฟกัส กันมือหงิก มืองอ อีกต่อไป เพราะระบบโฟกัส "เข้าเป้า" ได้ตลอด และ เข้าแบบ "เป๊ะๆ" ไม่ต้องลุ้นจนตัวโกงอีกต่อไป 

แต่ความพิเศษ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะ Dual Pixel CMOS AF เมื่อถึงคราวจะต้องบันทึกภาพ (คุณกดชัตเตอร์จนสุดเพื่อถ่ายภาพ) กล้องจะทำการ ควบรวม พิกเซลย่อย A กับ B เข้าด้วยกัน เป็น 1 หน่วยพิกเซลเดียวกัน เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำงานรับแสงเสมือนหนึ่ง ไม่มี A ไม่มี B เป็นหนึ่งเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อให้ได้สัญญานภาพที่ชัดเจน มีสัญญานรบกวน หรือ noise ที่ต่ำนั่นเอง (ถ้าแยกไปเป็น A กับ B จะทำให้แต่ละพิกเซลเล็กเกินไป ส่งผลกับเรื่อง noise ในภาพได้ จึงต้องนำมารวมกัน ในขณะบันทึกภาพ) แต่พอบันทึกภาพเรียบร้อย ก็แยกย้าย กันไปเป็น A เป็น B เพื่อโฟกัสภาพต่อไป สลับไป มาเช่นนี้ตลอด 

อย่างไรก็ตาม การทำงานของ Dual Pixel CMOS AF จะคลอบคลุมเพียง 80% ของพื้นที่ภาพ ไม่ใช่ทั้ง 100% ซึ่งเรื่องนี้ ทาง Canon แจ้งว่า บริเวณขอบภาพ เป็นส่วนที่ไม่สำคัญในการจัดองค์ประกอบภาพ น้อยมากที่จะโฟกัสภาพริมขนาดนั้น จึงยังไม่จำเป็น ประกอบกับ ทางด้านเทคนิค แสงที่ตกบริเวณขอบภาพ ยังน้อยเกินไป จนไม่สามารถทำงานแล้วแยก A กับ B ออกไป แล้วโฟกัสได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างที่ต้องการ จึงยังไม่รวมเอา บริเวณขอบภาพ 20% นั้นเข้ามาก่อน (อย่างน้อยก็ในเทคโนโลยี ปัจจุบัน เชื่อว่า อีกหน่อย น่าจะมีแบบ เต็มพื้นที่ 100% ตามออกมาแน่นอน




Compositional Freedom, Quick and Accurate Live View Focus 

สำหรับการถ่ายภาพนิ่ง เทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ช่วยให้การถ่ายภาพแบบ Live View ทำได้แม่นยำและรวดเร็วกว่าที่เคย ให้นักถ่ายภาพปลดปล่อยทุกจินตนาการสร้างสรรค์ไปกับมุมมองใหม่ๆ บนหน้าจอ LCD ปรับหมุนได้หลากทิศทาง ไม่ว่าจะจับภาพนักกรีฑาในสนามแข่งขันหรือเด็กๆ ในสวนสาธารณะ โดยใช้ขาตั้งกล้องหรือมือจับกล้องก็เป็นไปได้ทุกมุมมองทุกตำแหน่ง จับโฟกัสในพื้นที่มุมกว้างได้คมชัดแทบจะในทันที สะดวกมากสำหรับการถ่ายภาพช็อตเด็ดเฉพาะหน้าที่ไม่คาดฝัน ซึ่งข้อดีของการถ่ายในโหมด Live View นั้น ผู้ใช้สามารถพรีวิวภาพ ตรวจดูองค์ประกอบ และเอฟเฟคที่เลือกใช้ได้ก่อนลั่นชัตเตอร์จริง ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมตั้งแต่เริ่มแรก

  Built-in Wi-Fi อิสระแห่งการแชร์ภาพแบบไร้สาย 

ก่อนที่จะพูดถึง ฟังก์ชั่นนี้ ผมบอกเลยว่าชอบมาก คือเชื่อมต่อถึงกันง่ายกับกล้องแคนนอนและโทรศัพท์สมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ผ่าน EOS Remote app** ให้คุณอัพโหลดภาพได้ทุกที่ทุกเวลา หรือใช้เป็นอุปกรณ์ควบคุมการทำงานกล้องจากระยะไกล สั่งพิมพ์ภาพที่เครื่องพริ้นเตอร์ระบบ PictBridge แบบไร้สายก็ทำได้สะดวกและง่ายกว่าที่เคยกล้อง EOS 70D มี WiFi ในตัวกล้องช่วยให้คุณควบคุมการทำงานบนตัวกล้องหน้าจอสมาร์ทโฟนได้ง่ายๆ แบบไร้สาย ผ่าน EOS Remote app (รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android) ทั้งการสั่งกดชัตเตอร์ การตั้งค่าตั้งกล้องต่างๆ ได้อย่างอิสระ อาทิ เลือกจุดโฟกัส รูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์ ค่า ISO ฯลฯ ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพในมุมมองที่ยากต่อการเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย หรือจะเลือกดูภาพในตัวกล้องผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน ก่อนย้ายไฟล์ แล้วเซฟลงมือถือก็ทำได้เลยทันที กล้อง EOS 70D ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่รองรับระบบ DLNA เช่น HDTV และอื่นๆ ได้อีกมากมาย

นอกจากนี้ผู้ใช้กล้อง EOS 70D ยังสามารถแชร์ภาพสวย หรือไฟล์วิดีโอที่คมชัดจากกล้อง ไปยังโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค อาทิ เฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ อีเมล หรือจะเชื่อมต่อกล้อง EOS 70D แบบไร้สายกับเครื่องพริ้นเตอร์ระบบ PictBridge และสั่งพิมพ์ภาพที่ต้องการจากกล้องได้ทันที ทำให้การถ่ายภาพและพิมพ์ภาพสะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น






Megapixel CMOS (APS-C) sensor
กล้อง EOS 70D มาพร้อมเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ให้จำนวนพิกเซลสูงสุดเหนือกว่ากล้อง EOS รุ่นอื่นๆ ด้วยความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซล จึงบันทึกภาพขนาดใหญ่สุดได้ถึง 5472 x 3648 พิกเซล นอกเหนือจากนี้ ด้วยพลังการประมวลภาพแบบ 14 บิต ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ถึงความสามารถในการไล่โทนสีภาพอันยอดเยี่ยม ขณะที่ค่าความไวแสงที่ปรับกว้างได้มากถึง ISO 100-12800 (H: 25600) ช่วยให้ภาพสวยงามแม้อยู่ในสถานการณ์ที่มีแสงสลัว ด้วยพลังของสองสุดยอดเทคโนโลยีของเซ็นเซอร์ CMOS รูปแบบใหม่และชิปประมวลผลอัจฉริยะ DIGIC 5+ นี้เอง กล้อง EOS 70D จึงทำงานได้รวดเร็วกว่าทั้งประสิทธิภาพการประมวลผลข้อมูล การลดสัญญาณรบกวน และการแก้ไขอาการคลาดสีของเลนส์แบบเรียลไทม์ 

ด้วยพลังของชิปประมวลผลอัจฉริยะใหม่ DIGIC 5+ กล้อง EOS 70D สามารถเลือกปรับค่าความไวแสงได้กว้างมากยิ่งขึ้นถึง ISO 100-12800 (H:25600) ทุกสถานการณ์ที่ยากต่อการถ่ายภาพจึงเป็นไปได้โดยไม่ต้องใช้แฟลช แม้อยู่ในที่ๆ มีแสงน้อย กล้อง EOS 70D ก็ยังทำงานได้น่าอย่างประทับใจด้วยประสิทธิภาพในการลดสัญญาณรบกวนอันยอดเยี่ยมของชิปประมวลผล DIGIC 5+ ยิ่งเมื่อใช้งานร่วมกับเลนส์ตระกูล EF หรือ EF-S จากแคนนอนที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว Optical Image Stabilizer กล้อง EOS 70D ก็ยิ่งจับภาพได้สวยคมชัดมากขึ้นโดย ไร้อุปสรรค



ถ่ายภาพความเร็วสูงต่อเนื่อง 7 ภาพต่อวินาที: สุดยอดความเร็วที่ช่างภาพต้องการ 

สำหรับเรื่องของความเร็วชัตเตอร์ ก็จัดเต็มมากคับ ด้วยสุดยอดความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องได้มากถึง 7 เฟรมต่อวินาที EOS 70D จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการจับภาพแอ็คชั่นที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็ว อันเป็นผลมาจากระบบชัตเตอร์อันยอดเยี่ยมผนวกกับวงจรอิเล็กทรอนิกส์สุดล้ำของแคนนอน รับประกันได้ถึงการตอบสนองอย่างทันท่วงทีและประสิทธิภาพสุดล้ำในการใช้งาน จึงจับภาพความเร็วสูงได้คมชัดสมบูรณ์ช็อตต่อช็อตไม่พลาดแม้เสี้ยววินาที


หน้าจอ Clear View LCD II ระบบทัชสกรีน ปรับหมุนได้ ขนาด 3 นิ้ว (1,040,000 จุด) พร้อมเคลือบผิวป้องกันรอยขีดข่วน 

สู่อีกโลกของการถ่ายภาพบนหน้าจอ Clear View LCD II ขนาด 3 นิ้ว ปรับพับหมุนได้ถึง 180 องศา ความละเอียด 1.04 ล้านจุด ช่วยให้นักถ่ายภาพสร้างสรรค์ภาพสวยมีสไตล์ได้ทุกมุมมอง หน้าจอระบบสัมผัสแบบ Capacitive ใช้งานแบบ Multi-touch เหมือนที่ใช้กันในโทรศัพท์มือถือ การป้อนคำสั่งใช้งานจึงสะดวกและง่ายดาย เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส ทั้งการถ่ายภาพโหมด Live View สั่งย่อขยาย เลื่อนดูภาพ เลือกเมนู ตั้งค่ากล้องต่างๆ อาทิ เลือกจุดออโต้โฟกัส ปรับค่าแสง ความเร็วชัตเตอร์ และรูรับแสง เป็นต้น โครงสร้างแข็งแรงทนทานกรอบเคลือบเรซิน ป้องกันแสงสะท้อนทุกองศาการใช้งาน มีเคลือบผิวป้องกันรอยขีดข่วนและรอยนิ้วมือแสดงทุกรายละเอียดได้คมชัด


ช่องมองภาพมีระบบออโต้โฟกัส 19 จุดแบบ cross-type ทุกตำแหน่ง 

(เป็นแบบ Dual Cross Type ที่จุดกึ่งกลาง รองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์ f/2.8) ครอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้างทำให้ผู้ใช้งานมีอิสระยิ่งขึ้นในการสร้างสรรค์ภาพ 





**ระบบ AF รวดเร็ว แม่นยำ อย่างน่าอัศจรรย์ 

กล้อง EOS 70D พร้อมถ่ายภาพทุกสถานการณ์ด้วยระบบออโต้โฟกัสประสิทธิภาพสูง แบบ cross-type 19 จุดทุกตำแหน่ง ซึ่งสามารถเลือกจับโฟกัสอัตโนมัติหรือปรับแมนนวลได้ตามต้องการ โดยจุดโฟกัสจะกระจายครอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้างทำให้ผู้ใช้งานมีอิสระยิ่งขึ้นในการสร้างสรรค์ภาพ ทำงานได้ดีไม่ว่าจะถ่ายภาพในแนวตั้งหรือแนวนอน และติตตามวัตถุได้อย่างดีเยี่ยมแม้จะมีการเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่คาดฝันก็ตาม นอกจากนี้ ยิ่งเมื่อใช้กล้อง EOS 70D ร่วมกับเลนส์ f/2.8 หรือรุ่นที่มีรูรับแสงมากกว่านี้ก็จะยิ่งทวีความเร็วในการโฟกัสยิ่งขึ้น เพราะใช้ระบบออโต้โฟกัสแบบ Dual Cross Type ที่จุดกึ่งกลาง โดยผู้ใช้สามารถเลือกปรับโหมดออโต้โฟกัสให้เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ตามต้องการ



Intelligent Viewfinder ช่องมองภาพอัจฉริยะ ครอบคลุมการมองเห็น 98% พร้อมแสดงข้อมูลสำคัญบนหน้าจออย่างครบครัน 

อัตราขยาย 0.95 เท่า มีเคลือบผิวแบบใหม่ช่วยลดแสงสะท้อน ปรับปรุงโครงสร้างให้ทนทานต่ออากาศเย็นได้ดียิ่งขึ้น พร้อมแสดงข้อมูลสำคัญบนหน้าจออย่างครบครันให้ผู้ใช้ไม่พลาดช่วงจังหวะสำคัญ อาทิ ข้อมูลเกี่ยวกับโหมดออโต้โฟกัส แสดงตำแหน่งของจุดโฟกัส แสดงเส้นตาราง (Grid) และสัญลักษณ์เตือนต่างๆ รวมทั้งยังมีมาตรวัดระนาบกล้องแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic level) รุ่นใหม่ที่สามารถตรวจจับและแสดงองศาการเอียงของกล้องได้ทั้งในแนวดิ่งและแนวราบอีกด้วย ช่องมองภาพอัจฉริยะรุ่นใหม่ในกล้อง EOS 70D จึงต่างจากช่องมองภาพในกล้องอื่นๆ เพราะผู้ใช้สามารถเลือกเปิด-ปิดฟังก์ชั่นแสดงข้อมูลทั้งหมดนี้ได้อย่างอิสระเพียงกดปุ่มเดียว ช่วยให้ไม่ต้องคอยพะวงและตั้งสมาธิกับวัตถุและการจัดองค์ประกอบภาพได้เป็นอย่างดี



โหมดถ่ายภาพอัจฉริยะ Scene Intelligent Auto ช่วยปรับตั้งค่ากล้องให้เหมาะสมตามสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ

โหมดถ่ายภาพอัจฉริยะ Scene Intelligent Auto เกิดขึ้นจากการรวมตัวของสุดยอดเทคโนโลยีจากแคนนอนเพื่อให้ภาพออกมาดีที่สุด ได้แก่ Picture Style Auto, Automatic Lighting Optimizer, Automatic White Balance, Auto focus และ Automatic Exposure เมื่อเปิดใช้งานโหมดนี้กล้องทำการคำนวนค่าแสงรวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ใบหน้าบุคคล สีสัน ความสว่าง วัตถุเคลื่อนไหว ค่าความเปรียบต่าง การใช้ขาตั้งกล้อง ฯลฯ แล้วจึงปรับตั้งค่ากล้องให้อัตโนมัติเพื่อความรวดเร็วในการถ่ายภาพในทุกสถานการณ์




ฟีเจอร์อื่นๆ เพื่อการใช้งานสะดวกรอบด้าน



สามารถใช้งานร่วมกับเลนส์ตระกูล EF ของแคนนอนได้ทุกรุ่น



รวมถึงเลนส์รุ่นเล็กน้ำหนักเบาในตระกูล EF-S ที่มีให้เลือกใช้งานตั้งแต่เลนส์มุมกว้างพิเศษไปจนถึงเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ และเลนส์ระบบ STM สำหรับถ่ายภาพเคลื่อนไหว ทุกรุ่นติดตั้งเทคโนโลยีการถ่ายภาพขั้นสูงที่ให้ความแม่นยำระดับไมครอนช่วยให้ได้ภาพสวยคุณภาพดี มาพร้อมคุณสมบัติพิเศษมากมาย อาทิ ระบบป้องกันภาพสั่นไหว Optical Image Stabilizer ช่วยลดผลกระทบจากการสั่นของตัวกล้อง ขณะที่เลนส์ระบบมอเตอร์ STM ช่วยให้การปรับโฟกัสอัตโนมัติต่อเนื่องระหว่างบันทึกวิดีโอทำได้เงียบและเรียบลื่น

                                          รูปตัวอย่างที่ได้จากกล้อง ตัวนี้ครับ






โดยสรุปแล้ว กล้อง Canon EOS 70D เป็นกล้องที่ถ่ายสนุก โดยเฉพาะการนำเอาระบบออโต้โฟกัส แบบกล้องรุ่นโปรๆ (กล้องรุ่นรหัสเลขตัวเดียว EOS xD) มาใส่ไว้ในกล้องรุ่น กึ่งโปร (รุ่นเลขสองตัว EOS xxD) พร้อมทั้งทำปุ่มเลือกให้โดยเฉพาะ ข้างๆ ปุ่มกดชัตเตอร์ ทำให้เราไม่ต้องละสายตาออกจาก ช่องมองภาพ ก็สามารถเลือกใช้งาน ระบบโฟกัสที่เหมาะสมที่สุดได้ง่ายๆ ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากที่สุด นอกเหนือไปจากระบบ ออโต้โฟกัสในส่วนของ Live view แบบใหม่ ที่จะช่วยคนที่ถ่ายภาพนิ่งผ่านจอ Live view หรือคนที่ถ่ายวิดีโอ ที่จะได้ประโยชน์จากระบบ Dual Pixel CMOS AF ไปเต็มๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น